‘Rain Forest’ : ผู้ช่วยในฤดูฝน

‘Rain Forest’ กลิ่นที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจาก ‘ป่าฝนเขตร้อน’ ผืนป่าที่ถูกปกคลุมด้วยเรือนยอดไม้สูง และมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี บรรยากาศของความเย็นฉ่ำคละเคล้ากับกลิ่นสดชื่นบริสุทธิ์ สถานที่ของป่าไม้และสายฝน สองมิตรสหายที่คลุกคลีกันอย่างสนิทสนม อันเป็นจุดกำเนิดของ ‘Rain Forest’ ถึงแม้สายฝนจะเป็นมิตรสหายที่ดีต่อผืนป่า แต่คงไม่ใช่สำหรับผู้คนในฤดูฝนนี้ ฝนนำพามาซึ่งผลเสียมากมาย ทั้งในแง่ที่เป็นผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประจำวัน โรคภัยต่างๆ อีกทั้งยุงที่เป็นภาหะของโรคไข้เลือดออก และแมลงที่มากับฝน ทั้งหลายทั้งปวงล้วนแต่เป็นเหตุที่รบกวนร่างกายและจิตใจ เมื่อเราไม่สามารถกำหนดฟ้าฝนได้ สิ่งที่ทำได้คือการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่ตามมาหลังจากนั้น Karmakamet Aromatic จึงขอนำเสนอกลิ่น ‘Rain Forest’ ผู้ช่วยในฤดูฝนที่จะมาช่วยบำบัดฟื้นฟูร่างกายของคุณต่อผลเสียที่มากับฝน และยังช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความสดชื่นบริสุทธิ์ เพื่อฤดูฝนที่มีชีวิตชีวากว่าที่เคย ผู้ช่วยที่จะมาสร้างบรรยากาศแห่งป่าฝนให้กับพื้นที่ของคุณ และเพิ่มความผ่อนคลายต่อร่างกายและจิตใจ เราขอนำเสนอ ‘Aromatherapy Pure Essential Oil (Blended Scent) - น้ำมันหอมระเหย (กลิ่นผสม)’ ‘How to heal?’ น้ำมันหอมระเหยสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 2 ทาง คือ การสูดดม และการซึมเข้าสู่ผิว โดยอาศัยปฏิกิริยาทางเคมีกับอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เป็นทางเลือกสำหรับการดูแลระบบทางเดินหายใจ ระบบการทำงานสมองและกล้ามเนื้อ การสูดดมโดยตรง : แนะนำให้หยดน้ำมันหอมระเหย 1-2 หยด ลงบนสำลี ผ้าเช็ดหน้า กระดาษทิชชู่ หรือปกเสื้อของคุณ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน การระเหยสร้างบรรยากาศ : แนะนำให้หยดน้ำมันหอมระเหย 8-15 หยดใส่ ‘Burner (เตาต้มน้ำมันหอม)’ เพื่อให้เกิดการกระจายกลิ่นได้ดี ควรต้มน้ำให้มีอุณหภูมิประมาณ 50-55 องศาเซลเซียส และไม่ควรให้น้ำร้อนจนเกินไป เพราะจะทำให้น้ำมันระเหยไปอย่างรวดเร็ว การนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ : หยดน้ำมันหอมระเหยลงในอ่างน้ำอุ่น 15-20 หยด คนให้เข้ากัน นอนแช่ประมาณ 15-20 นาที น้ำมันหอมระเหยจะซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังและระเหยเข้าสู่จมูก ซึ่งจะช่วยในการบำบัดร่างกายและจิตใจ นอกจากคุณสมบัติของการบำบัดด้วยกลิ่นแล้ว คุณยังสามารถหยดน้ำมันหอมระเหยใส่เตาต้มน้ำมันหอม แล้วนำไปวางไว้บริเวณที่ต้องการ เพื่อไล่ยุงและแมลงที่มากับฝนได้อีกด้วย [caption id="attachment_3054" align="alignnone" width="690"] Rain Forest น้ำมันหอมระเหย Karmakamet คามาคาเมต[/caption] Rain Forest มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อระบบร่างกาย คือ ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปรับสมดุลระบบไหลเวียนโลหิต ลดอาการภูมิแพ้อากาศ ลดอาการหอบหืด และไล่แมลง เหตุที่ Rain Forest มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากสารระเหยที่สกัดจากพืชแต่ละชนิด เข้าไปทำงานร่วมกับสมองและหลั่งสารต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น กลิ่น Rain Forest คือกลิ่นผสมที่เกิดขึ้นจากการผสมกลิ่นเดี่ยวของ Karmakamet Aromatic เข้าด้วยกัน 5 กลิ่น ดังนี้ ‘Siamese Lemongrass (ตะไคร้บ้าน)’ ‘English Lavender (ดอกลาเวนเดอร์)’ ‘Siamese Sweet Basil (โหระพา)’ ‘Eucalyptus (ยูคาลิปตัส)’ ‘Sweet Orange (ส้ม)’ [caption id="attachment_3053" align="alignnone" width="690"] Rain Forest น้ำมันหอมระเหย Karmakamet คามาคาเมต[/caption] สำหรับการสร้างความผ่อนคลายต่อร่างกายและจิตใจอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยตรง เราขอนำเสนอ ‘Aromatherapy Blended Massage Oil - น้ำมันนวดหอมเพื่อการบำบัด’ ‘How to heal?’ น้ำมันนวดหอมใช้สำหรับการนวดเพื่อลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต เพื่อการบำบัดอย่างล้ำลึก แนะนำให้อาบน้ำอุ่นก่อนนวด ความร้อนจะช่วยเปิดรูขุมขน และกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต อีกทั้งการอุ่นน้ำมันนวดด้วย ‘Burner (เตาต้มน้ำมันหอม)’ ก่อนนวด หรือนำน้ำมันนวดหอมผสมกับครีมทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และส่งผลให้การนวดเกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ หากต้องการรับการบำบัดแบบครบองค์ประกอบ คุณสามารถนำน้ำมันนวดหอมของ Karmakamet Aromatic ไปร่วมใช้กับบริการ Oil Massage ณ ร้านสปาที่คุณชื่นชอบได้ หมดกังวลกับสารตกค้าง เนื่องจาก Rain Forest สกัดจากพืช 100% จึงไม่มีผลต่อการสะสมของสารตกค้างภายในร่างกาย ดังนั้นเมื่อนวดหรือสูดดมแล้ว สารตกค้างดังกล่าวจะถูกขับออกมากับการขับถ่ายของเสียและเหงื่อ ตามกลไกการกำจัดของเสียปกติของร่างกาย Aromatherapy Blended Massage Oil – น้ำมันนวดหอมเพื่อการบำบัด Secret Tips หากคุณเป็นบุคคลที่ชื่นชอบแสงเทียนยามค่ำคืน และโปรดปราน บรรยากาศของสายฝน ในคืนฝนตก เราแนะนำให้ลองปิดไฟแล้วจุดเทียนสักเล่ม อาจจะเป็นเทียนประเภท Tea Light Candle หรือ Pillar Candle หลังจากนั้นหยดน้ำมันหอมระเหย 3-5 หยด บริเวณน้ำตาเทียน ความร้อนจากน้ำตาเทียนจะช่วยทำให้น้ำมันหอมระเหยส่งกลิ่นสร้างบรรยากาศ ที่จะช่วยทำให้คุณสงบผ่อนคลาย และเปลี่ยนค่ำคืนฝนตกของคุณให้พิเศษกว่าที่เคย

2020-03-06

Original Room Perfume Diffuser

Scent your home with the long lasting aroma of our Room Perfume Diffuser delicately formulated from concentrated aromatic oil. It helps sanitising the air and creating pleasant atmosphere as well as providing soft and alluring scent that lasts around 2-3 months. • Directions: ——— 1. The Original Perfume Room Diffuser is a great way to alive your home with enchanting aroma, as the reeds soak up the aromatic oil and constantly disperse the scent into the air. 2. The room diffuser is very convenient and safe to use as it doesn’t require heat or flame to diffuse the fragrance. Its coverage is around 20-25 square meters. For the case that you would like to use the diffuser in the wider area, place more bottles in accordance with the size of the space you would like to cover. 3. The room diffuser is suitable for creating subtle aroma that imbues gently in the air all day round. 4. The useful life of this product depends on many factors e.g. size, heat, sunlight, wind, etc. At room temperature, a bottle of the Original Perfume Room Diffuser will lasts for 2-3 months. • Tips: ——— 1. If you wish to increase the scent, just flip the sticks. However, the more often you flip the sticks, the faster the aromatic oil will run out. 2. To prolong the use of the diffuser, take out the reeds and close the bottle when it’s not in use. 3. Generally, the scent will always float from bottom to top. Therefore, the best way to indulge with the aroma is to place the diffuser slightly lower than the person’s head level. So, you can smell the scent at its best. 4. If the level of the oil in the bottle decreased significantly, there might be some factors that cause the oil to evaporate too quickly such as the heat around the area or the wind. If these are the case, move the diffuser to the area that is not to hot or windy. If you couldn’t find any reasons, try filling the bottle neck with more reeds to prevent the oil from diffusing to quickly. 5. You can create new scent by placing diffusers with different scents together. For example, try using Bengal Morning Rain room diffuser with Siamese Lemongrass or Peppermint diffuser to create the refreshing scent of the tropical rain forest. For a romantic atmosphere, try using Tobacco room diffuser with Hay and Javanese Vanilla room diffuser.

2020-03-10

The Secret of Scent : Lavender

The Secret of Scent: Lavender ลาเวนเดอร์ได้แพร่กระจายเข้าไปยังยุโรปเมื่อกรีซค้าขายกับฝรั่งเศส และกลายเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่สำคัญ พระราชาเอ็ดเวิร์ดที่หนึ่งได้ทรงนำไปปลูกในพระราชวัง ในยุคของพระเจ้าเฮนรี่ ลาเวนเดอร์ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งนำไปใช้กับผ้าลินิน ทำถุงเครื่องหอม เพื่อให้อากาศสดชื่น พระราชินีเอลิซาเบ็ธโปรดลาเวนเดอร์มา ทรงใช้ปรุงร่วมกับชา และยังได้ส่งเสริมให้ทำฟาร์มลาเวนเดอร์ และได้มีการนำลาเวนเดอร์ไปใช้เป็นเครื่องสำอางในราชสำนักทั้งทำเป็นน้ำหอม, สบู่, เครื่องหอม, และใช้ผสมน้ำอาบและชำระล้าง ปัจจุบันกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก น้ำมันหอมระเหยดอกลาเวนเดอร์ เป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีประโยชน์หลาย ๆ อย่างในด้าน Aromatherapy ที่มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์การกระจายกลิ่นในอากาศเพื่อเพิ่มความรู้สึกสดชื่น บำรุงระบบหายใจ คลายความเครียดและเหนื่อยล้าจากการทำงาน ใช้ก่อนนอนเพื่อช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อโรค ต้านแบคทีเรีย บรรเทาอาการปวด และรักษาสมดุลย์ของระบบประสาท ให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ตามตำนานกล่าวที่ขาน จูเลียส ซีซาร์ และ มาร์ค แอนโทนีหารู้สักนิดไม่ว่า ที่พวกตนเกิดสิเนหาประดิพัทธ์พระนางคลีโอพัตรานั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะสุคนธาจากเครื่องหอมลาเวนเดอร์นี่เอง ลาเวนเดอร์เป็นดอกไม้ชนิดแรกๆ ในโลกที่ถูกนำมาปรุงแต่งเป็นสมุนไพรในการรักษาและปรุงเป็นเครื่องหอม ซึ่งในอดีตนั้นชาวอียิปต์เป็นชนชาติแรกที่ใช้ลาเวนเดอร์เป็นเครื่องหอมในการอาบน้ำและการประทินผิว ด้วยเหตุนี้รากศัพท์ของคำว่าลาเวนเดอร์ในภาษาละตินคือ Lavare จึงมีความหมายว่า ชำระล้าง ต่อมาเมื่อชาวโรมันได้รับเอาการใช้ลาเวนเดอร์ไปจากอียิปต์ จึงได้มีการนำไปปรุงอาหารอีกต่อหนึ่ง ในคัมภีร์ไบเบิลยังกล่าวด้วยว่าพระแม่มารีได้ใช้ลาเวนเดอร์ชำระล้างพระเยซูในขณะยังเป็นทารก และยังใช้ลาเวนเดอร์ชโลมพระศพหลังจากถูกตรึงกางเขนก่อนนำไปฝังด้วย ต่อมาลาเวนเดอร์ได้แพร่กระจายเข้าไปยังยุโรปเมื่อกรีซค้าขายกับฝรั่งเศส และกลายเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่สำคัญ พระราชาเอ็ดเวิร์ดที่หนึ่งได้ทรงนำไปปลูกในพระราชวัง ในยุคของพระเจ้าเฮนรี่ ลาเวนเดอร์ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งนำไปใช้กับผ้าลินิน ทำถุงเครื่องหอม เพื่อให้อากาศสดชื่น พระราชินีเอลิซาเบ็ธโปรดลาเวนเดอร์มา ทรงใช้ปรุงร่วมกับชา และยังได้ส่งเสริมให้ทำฟาร์มลาเวนเดอร์ และได้มีการนำลาเวนเดอร์ไปใช้เป็นเครื่องสำอางในราชสำนักทั้งทำเป็นน้ำหอม, สบู่, เครื่องหอม, และใช้ผสมน้ำอาบและชำระล้าง

2022-07-18