Welcome to the rainy season

Welcome to the rainy season เข้าสู่ช่วงหน้าฝนทีไร ถึงแม้อากาศจะเย็นสบาย แต่ก็ทำให้ใครหลายคนรู้สึกหม่นหมองไปกับบรรยากาศอึมครึม ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ซึ่งความรู้สึกเหงาจากบรรยากาศฝนตกนั้น เป็นอาการทางอารมณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หรือเรียกได้ว่าเป็น SAD (Seasonal Affective Disorder) ภาวะซึมเศร้าจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ต้อนรับฤดูฝนผ่านกลิ่นหอมที่จะมาเป็นตัวช่วยเพิ่มความสุข และผ่อนคลาย แทนที่ความรู้สึกหม่นหมอง ให้หอมสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ด้วย 5 กลิ่นหอมจากธรรมชาติ ดังนี้     Original Aromatic Glass Candle กลิ่น Luangprabang Buddleja สร้างบรรยากาศท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายด้วยกลิ่น Luangprabang Buddleja กลิ่นของดอกราชาวดี แห่งหลวงพระบาง ให้ความรู้สึกหอมสดชื่น ผ่อนคลาย พร้อมความอบอุ่นที่สัมผัสได้ ให้คุณได้รับความเย็นสบายของสายฝน ไปพร้อมกับความอบอุ่นไปพร้อมๆ กัน นอกจากกลิ่นหอมจาก Glass Candle แล้ว แสง สี ของเปลวเทียนยังช่วยเพิ่มสมาธิ ให้คุณได้สัมผัสถึงความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า พร้อมมีสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ฟังเพลง - Original Aromatic Glass Candle ปริมาณ 185 กรัม ราคา 900 บาท   Original Room Perfume Diffuser กลิ่น Matcha Green Tea Leaves เคิบเคลิ้มไปกับบรรยาศหอมผ่อนคลาย ผ่านกลิ่น Matcha Green Tea Leaves กลิ่นใบชาเขียวหอมกลิ่นชานวลๆ ลึกละมุน มีความฝาดเบาๆ ตามแบบฉบับชา กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ของยอดอ่อนใบชา ควรตั้งวางขวด Room Diffuser ในระดับเอว เพราะโมเลกุลของกลิ่นจะลอยจากล่างขึ้นบนและให้คุณได้รับกลิ่นเต็มที่ และควรสลับก้านไม้อีกด้านที่จมอยู่ในน้ำมันขึ้นมาด้านบนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้น้ำมันหอมดูดขึ้นมาใหม่ ให้คุณได้รับกลิ่นหอมอย่างเต็มที่ - Original Room Perfume Diffuser ปริมาณ 200 มิลลิลิตร ราคา 990 บาท Original Room Perfume Spray กลิ่น Tasmania Lavender กลิ่นของทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่งทัสมาเนีย หอมอบอวลด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์สดที่เข้มข้น แต่ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย เป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับเพิ่มความผ่อนคลาย เพิ่มความสดชื่น คลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น ก่อนนอนคืนนี้ ลองฉีด Room Perfume Spray กลิ่น Tasmania Lavender เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ที่ส่งผลต่อคุณภาพในการนอนของคุณให้ดี หลับสนิทตลอดทั้งคืนไปพร้อมกับเสียงฝน และกลิ่นหอมสดชื่น - Original Room Perfume Spray ปริมาณ 100 มิลลิลิตร ราคา 590 บาท   Aromatherapy Pure Essential Oil / Single กลิ่น Tunisian Rosemary ถึงแม้ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยเมฆครึ้มสีหม่น แต่คุณสามารถกำหนดบรรยากาศภายในบ้านให้สดใสได้ด้วยกลิ่น Tunisian Rosemary กลิ่นจากโรสแมรี่ หนึ่งในพืชสมุนไพรที่เก่าแก่ มอบความรู้สึกหอมสดชื่นปลอดโปร่ง และชัดเจน รวมถึงกลิ่นยังมีประสิทธิภาพช่วยเสริมคุณภาพบำรุงระบบหายใจ นอกจากจะช่วยตกแต่งบรรยากาศภายในห้องให้หอมผ่อนคลายแล้ว ยังสามารถนำมาแก้ปัญหารองเท้ามีกลิ่นอับ ที่เกิดจากความเปียกชื้น เพียงหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่คุณชอบ ประมาณ 2-3 หยด ลงในก้อนสำลี ฟองน้ำ หรือกระดาษทิชชู่ จากนั้นใส่ไว้ในรองเท้า กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นอับ - Aromatherapy Pure Essential Oil / Single ปริมาณ 10 มิลลิลิตร ราคา 480บาท   Traditional Asian Perfume Sachet กลิ่น White Grapefruit สร้างอารมณ์ที่สดใส ผ่านกลิ่นเกรปฟรุต ผลไม้ตระกูลส้มกึ่งเขตร้อน ที่จะมอบความหอมเปรี้ยวอมหวานคล้ายขนมเยลลี่รสส้ม พร้อมทั้งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเศร้าซึมจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ปัญหาที่มักพบในช่วงหน้าฝน คือ ตู้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับ สาเหตุเกิดจากเสื้อผ้าแห้งช้า รวมถึงความชื้น และนำมาพับหรือแขวนเก็บ จึงเกิดการสะสมของเชื้อราในตู้ รวมถึงยังเป็นจุดอับแสงแดด บรรเทากลิ่นอับให้เปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมด้วยการแขวน Perfume Sachet ถุงหอมปรับอากาศที่ผ่านกรรมวิธีการหมักบ่มวัตถุดิบจากธรรมชาติและน้ำมันหอมบริสุทธิ์เข้มข้น มาเปลี่ยนกลิ่นอับให้เป็นกลิ่นหอมผ่านโทนกลิ่นที่หลากหลาย ให้คุณได้สัมผัสความหอมสดชื่นนาน 2-3 เดือนทันทีที่เปิดตู้เสื้อผ้า - ข้อควรระวัง : ควรแขวนถุงหอมให้ห่างจากเสื้อผ้าและหลีกเลี่ยงการแขวนแนบชิดผนังตู้เสื้อผ้า เพื่อป้องกันความเข้มข้นของน้ำมันหอม ที่อาจทำให้ผิวเคลือบของวัสดุนั้นละลายและเกิดความเสียหายได้ - Traditional Asian Perfume Sachet ปริมาณ 50 กรัม ราคา 395 บาท Photo by Nadia Valko on Unsplash

2022-06-27

Original Room Perfume Diffuser

Scent your home with the long lasting aroma of our Room Perfume Diffuser delicately formulated from concentrated aromatic oil. It helps sanitising the air and creating pleasant atmosphere as well as providing soft and alluring scent that lasts around 2-3 months. • Directions: ——— 1. The Original Perfume Room Diffuser is a great way to alive your home with enchanting aroma, as the reeds soak up the aromatic oil and constantly disperse the scent into the air. 2. The room diffuser is very convenient and safe to use as it doesn’t require heat or flame to diffuse the fragrance. Its coverage is around 20-25 square meters. For the case that you would like to use the diffuser in the wider area, place more bottles in accordance with the size of the space you would like to cover. 3. The room diffuser is suitable for creating subtle aroma that imbues gently in the air all day round. 4. The useful life of this product depends on many factors e.g. size, heat, sunlight, wind, etc. At room temperature, a bottle of the Original Perfume Room Diffuser will lasts for 2-3 months. • Tips: ——— 1. If you wish to increase the scent, just flip the sticks. However, the more often you flip the sticks, the faster the aromatic oil will run out. 2. To prolong the use of the diffuser, take out the reeds and close the bottle when it’s not in use. 3. Generally, the scent will always float from bottom to top. Therefore, the best way to indulge with the aroma is to place the diffuser slightly lower than the person’s head level. So, you can smell the scent at its best. 4. If the level of the oil in the bottle decreased significantly, there might be some factors that cause the oil to evaporate too quickly such as the heat around the area or the wind. If these are the case, move the diffuser to the area that is not to hot or windy. If you couldn’t find any reasons, try filling the bottle neck with more reeds to prevent the oil from diffusing to quickly. 5. You can create new scent by placing diffusers with different scents together. For example, try using Bengal Morning Rain room diffuser with Siamese Lemongrass or Peppermint diffuser to create the refreshing scent of the tropical rain forest. For a romantic atmosphere, try using Tobacco room diffuser with Hay and Javanese Vanilla room diffuser.

2020-03-10

Karmakamet Aromatic “The Scent Explorer”

Karmakamet Aromatic Discovering the World of Scents กลิ่น อนุภาคทางเคมี ที่กระจายตัวอยู่ในอากาศ โดยสิ่งมีชีวิตนั้นสามารถรับรู้ได้ด้วยอวัยวะรับกลิ่น นั้นก็คือ จมูก กลิ่นโดยทั่วไปแล้วแบ่งเป็นกลิ่นหอม และกลิ่นเหม็น แตกต่างกันออกไปโดยส่งผลต่อระดับความพึงพอใจของทั้งมนุษย์ และสัตว์ โดยตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันมีการนำประโยชน์ของกลิ่นแต่ละกลิ่นจากทุกสิ่งที่มีกลิ่นมาใช้ประโยชน์ในหลากหลายด้าน ในประวัติศาสตร์ การใช้กลิ่น ถูกค้นพบเมื่อหลายพันปีก่อน เกิดขึ้นจากมนุษย์ ที่มีการเริ่มใช้งานผัสสะทั้งหมดของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น หู ตา จมูก มือ ลิ้น พัฒนาสิ่งต่างๆ ที่ใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ และสั่งสมประสบการณ์ต่างๆ เพื่อเติมเต็มทุกคำถาม และความต้องการของตนในทุกๆ ด้าน เฉกเช่นเดียวกับสมัยก่อนตามบันทึกที่มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ผลิตแต่เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการขั้นพื้นฐานของตัวเองเท่านั้น ที่จะถูกแบ่ง และพัฒนาไปตามแต่ละยุค เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากเครื่องมือเครื่องใช้แล้วก็ยังมีในเรื่องของ เครื่องประดับตกแต่ง เสื้อผ้าต่างๆ รวมไปถึงเครื่องหอม ซึ่งก็ยังไม่มีที่มาแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มีการระบุถึงการใช้งานว่ามีใช้มาตั้งแต่ยุคโบราณจากหลากหลายอารยธรรม และแหล่งที่มา และต่างออกไปจากเรื่องเล่า ความเชื่อ ประเพณีพื้นเมืองต่างๆ ของแต่ละอารยธรรม และส่วนผสมต่างๆ ที่แตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับแหล่งที่มา ที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องหอมซึ่งมักจะเป็นในแถบเมโสโปเตเมีย เปอร์เซีย และอียิปต์ 1. Chinese Peony : สัมผัสกับกลิ่นหอมของราชาเหล่าดอกไม้ อย่าง Chinese Peony หรือที่รู้จักกันในชื่อ โบตั๋น ดอกไม้สัญลักษณ์ของประเทศจีน เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชีย ตอนใต้ของยุโรป และตะวันตกของอเมริกาเหนือ มีลักษณะของใบเป็นใบประกอบ มีแฉกลึก ดอกใหญ่ และมีกลิ่นหอม มีหลายสี เช่น แดง บานเย็น เหลือง จนถึงขาว ปลูกในดินร่วนซุย ชอบขึ้นในที่ชื้น เป็นพืชที่ชอบความเย็น ดอกจะบานเต็มที่ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย ซื่อสัตย์ โชคลาภ เมตตา และเป็นดอกไม้ที่ใช้แสดงถึงความภาคภูมิใจ และเกียรติยศ ส่งกลิ่นหอมหวาน นุ่ม ละมุน โทน Floral เจือกับความสะอาดสดชื่น ทำให้รู้สึกสบายทุกครั้งที่ได้กลิ่น 2. English Bluebell : กลิ่นหอมของดอกไม้ที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลก อย่าง English Bluebell ดอกไม้รูปทรงระฆังสีน้ำเงินปนม่วง มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นพืชป่าพบมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชอบอาศัยอยู่ในเขตอากาศเย็นแต่มีแสงส่องถึงรำไร เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ และถูกให้ความหมายว่าเป็นดอกไม้แสนอ่อนโยน ความเคารพนับถือ ความซื่อสัตย์ และส่งกลิ่นหอมหวานในโทนดอกไม้ ( Floral) ทั้งยังเคล้ากับความสดชื่น เจือกับกลิ่นเขียวจางๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในทุ่งดอกไม้ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล 3. Italian Bergamot : ความลับของกลิ่นหอม ที่ได้ชื่อว่าเป็นดั่งราชาแห่งความหอมสดชื่น อย่าง Italian Bergamot หรือ มะกรูด อีกหนึ่งกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมอย่างมากในการนำไปปรุงเป็นกลิ่นหอมของน้ำหอม และในอุตสาหกรรมเครื่องหอมหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าชื่อที่ใช้งานกันทั่วไปอาจจะเป็น มะกรูด แต่กลิ่นของ อิตาเลี่ยน เบอร์กามอท นั้นไม่เหมือนกับมะกรูดสายพันธุ์ทั่วไปที่เราต่างพบเจอ เพราะสายพันธุ์อิตาเลียนมีกลิ่นหอมที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นกลิ่นโทน ซีตรัส เป็นโน๊ตยอดนิยม มีกลิ่นหอมหวาน สดชื่น เจือกับความเขียวและเปรี้ยวฝาดจางๆ ให้ความรู้สึดสดชื่น และมีพลัง 4. Green Yarrow Leaves : สัมผัสกลิ่นของธรรมชาติ กับ Green Yarrow Leaves หรือ ใบของต้นแยร์โรว์ หรือ อชิเลีย เป็นพืชอายุนานกว่า 2,000 ปี มีถิ่นกำเนิดทั่วมุมโลกทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ส่วนดอกมีหลายสี เช่น สีขาว เหลือง ชมพู แดง เป็นพืชที่สามารถนำมาใช้งานได้ทุกส่วน ทั้งดอก ลำต้น ใบ โดยส่วนของดอก และใบสามารถนำมารับประทานได้ และยังนำไปพัฒนาเป็นอาหาร ยา รวมถึงเครื่องหอม มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งภายในและภายนอก บรรเทาวิตกกังวล นอนไม่หลับ ระบบทางเดินหายใจ Green Yarrow Leaves มีกลิ่นที่สะอาด หอม เจือกับความเปรี้ยวฝาด และแทรกด้วยความเขียวสดชื่น คล้ายกับหญ้าที่ตัดใหม่ ที่ปลายกลิ่นนั้นจะเจอกับความสไปซี่เล็กๆ ชวนให้ผ่อนคลายความรู้สึกได้เป็นอย่างดี 5. Fresh Yellow Tea Leaves : ค้นพบความหอมที่สกัดกลั่นด้วยวิธีที่ซับซ้อนที่สุดอย่าง Fresh Yellow Tea Leaves หรือ ใบชาเหลือง กลิ่นหอมที่สกัดมาจากใบชาที่มีขั้นตอนในการปลูก และดูแลรักษาอย่างปราณีตที่สุดในตระกูลชา โดยเฉพาะกรรมวิธีการผลิตพิถีพิถันหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเก็บใบชาแล้วนำมาม้วนเพื่อเก็บน้ำมันใบชาไว้ พอม้วนเสร็จจึงนำไปทำให้แห้ง เพื่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนสี กลิ่นที่ได้จะเป็นกลิ่นหอมสะอาด สดชื่น เจือกลิ่นเขียวฝาดเล็กๆ ที่ปลายกลิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวของกลิ่นใบชาเหลือง ให้ความรู้สึกสบาย กระฉับกระเฉงทุกครั้งที่ได้กลิ่น กลิ่นหอมของชาเหลืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากกลิ่นหอมของชาชนิดอื่นๆ 6. Indonesian Pink Pepper : ย้อนเวลาไปสัมผัสกลิ่นหอม ที่ถูกค้นพบกว่า 3,000 ปี กับ Indonesian Pink Pepper หรือ พริกไทยชมพู มีต้นกำเนิดจากหลากหลายที่ ไม่ว่าจะพื้นเมืองในแถบตอนใต้ของประเทศอินเดีย แถบทวีปอเมริกาใต้ ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน มาดากัสการ์ มักนำมาทำเป็นเครื่องปรุงอาหารเป็นหลัก เนื่องจากมีกลิ่นฉุน และรสชาติเผ็ดร้อนเฉพาะตัว จึงเป็นที่นิยม และถูกส่งต่อกันไปในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงยังนำมาทำเครื่องหอมที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นของเครื่องเทศ และหลังจากใช้งานไปสักพักหนึ่งจะเจอกับความอบอุ่นเจืออยู่ที่ปลายกลิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโทนกลิ่นสไปซี่ ให้ความรู้สึกโล่งสบายทุกครั้งที่ได้กลิ่น Karmakamet Aromatic อยากชวนคุณออกเดินทางไปค้นพบความลับของ กลิ่น ไปพร้อมๆ กับ นักปรุงกลิ่น แห่ง Karmakamet Aromatic ที่จะพาคุณไปท่องโลกของกลิ่นที่เต็มไปด้วยความลับ และความน่าค้นหา เพื่อให้ได้มาซึ่งกลิ่นหอมจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้คุณได้เข้าถึงกลิ่นที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดกับ Karmakamet Aromatic “The Scent Explorer” 6 กลิ่นใหม่สุดพิเศษ

2022-08-03